วันนี้ 10 ก.ย. 68 เวลา 11.00 น.
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท.
พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท.
พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท.
พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท.
พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี
พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2
พ.ต.อ.สุวิทย์ นันทกอบกุล ผกก.สภ.วิหารแดง
ร่วมกับ เจ้าหน้าที่สรรพสามิตพร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์ ร่วมสรรพสามิต ฝ่ายปกครอง และ สภ.วิหารแดง ยึดบุหรี่ไฟฟ้าครั้งมโหฬารกว่า 6 แสนชิ้น รวมมูลค่ากว่า 90 ล้านบาท สืบเนื่องจาก พ.ต.ท.วรศักดิ์ รอดสัมฤทธิ์ รอง ผกก.1 บก.สอท.2 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.2 ร่วมกับ นายธีรัชพงศ์ อินทระ และ นายณัฐคง สารชาติ นักวิชาการสรรพสามิตชำนาญการ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สรรพสามิตร ร่วมกันสืบสวนขยายผลการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่ กทม. จนพบเบาะแสความเชื่อมโยงไปยังการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้แก่เยาวชนในพื้นที่ จ.สระบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง จากการร่วมกันลงพื้นที่สืบสวน ทำให้ทราบว่า คนร้ายได้ใช้ยานพาหนะเป็นรถกะบะตู้ทึบ Isuzu สีขาวตอนเดียว ในการขนส่งสินค้าประเภทบุหรี่ไฟฟ้า จึงได้มีเฝ้าสะกดรอยติดตามเรื่อยมา กระทั่งทราบว่ารถยนต์คันดังกล่าว ได้ขนบุหรี่ไฟฟ้าไปเก็บรอพักเพื่อส่งให้ลูกค้า ณ โกดังแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ต.บ้านลำ อ.วิหารแดง จ.สระบุรี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์และสรรพสามิตพบบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งแกะออกจากกล่องแล้ววางอยู่บริเวณโกดังดังกล่าว และพบลังสินค้าจำนวนมากภายในโกดัง จึงได้ประสานฝ่ายปกครอง ปลัดอำเภอ ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิหารแดง เข้าร่วมเข้าตรวจค้นโกดังดังกล่าว
ผลการตรวจค้น สามารถตรวจยึดของกลาง ได้แก่
– บุหรี่ไฟฟ้า INFY (ดูดแล้วทิ้ง): 138,680 ชิ้น
– บุหรี่ไฟฟ้า Escobar (ดูดแล้วทิ้ง): 40,800 ชิ้น
– หัวพอต INFY: 374,000 ชิ้น
– เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า INFY: 6,350 ชิ้น
– รถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้อ Isuzu สีขาว กระบะตอนเดียว
– กล่องบรรจุชั้นวางบุหรี่ไฟฟ้า (แบบพลาสติกสำหรับร้านค้า) จำนวน 3 ชุด
– เราเตอร์ Wi-Fi พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 ชุด
– เซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดพร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 ชุด
รวมของกลางบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ทั้งหมด จำนวน 559,830 ชิ้น หากถูกปล่อยออกสู่ท้องตลาด คาดว่ามีมูลค่ากว่า 90 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันนำของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.วิหารแดง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งขยายผลไปยังนายทุนผู้สั่งการ ผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดรวมทั้งบุคคลที่หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
